ประกอบด้วย:
- ใยอาหารที่ละลายนํ้าได้ 88.52 มก.
- ใยอาหารที่ไม่ละลายนํ้า 325.90 มก.
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับใยอาหาร
ใยอาหาร มีทั้งแบบที่ละลายในน้ำได้ และแบบไม่ละลายในน้ำ โดยแต่ละแบบจะมีประโยชน์กับร่างกายแตกต่างกันดังนี้
เส้นใยที่ละลายน้ำ
จะละลายในน้ำได้และพองตัวเป็นวุ้น เส้นใยชนิดนี้จะช่วยขัดขวางการดูดซึมน้ำตาลและไขมัน ซึ่งมีประโยชน์ต่อการควบคุมระดับโคเลสเตอรอล และระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้ยังช่วยให้การขับถ่ายเป็นไปอย่างสะดวก ป้องกันการเกิดริดสีดวงทวาร
เส้นใยที่ไม่ละลายน้ำ
คือเส้นใยที่ละลายในน้ำไม่ได้ แต่จะอุ้มน้ำเอาไว้ เส้นใยชนิดนี้จะช่วยเพิ่มปริมาณกากอาหาร และกระตุ้นให้ลำไส้เกิดการขับถ่าย จึงมีประโยชน์ในการป้องกันโรคท้องผูกและมะเร็งลำไส้ใหญ่ ช่วยลดการเกิดสารพิษจากการย่อยสลายของแบคทีเรีย ที่เกิดจากการหมักหมมค้างเป็นเวลานานของกากอาหารในลำไส้
ประโยชน์ของใยอาหาร
- ช่วยควบคุมน้ำหนัก เส้นใยอาหารจะดูดซับน้ำและพองตัวในกระเพาะอาหาร ทำให้ไม่รู้สึกหิวและรับประทานอาหารได้น้อยลง
- ช่วยลดโคเลสเตอรอลและระดับน้ำตาลในเลือด จึงเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน
- ช่วยให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ ช่วยเพิ่มกากใยในลำไส้ เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นริดสีดวงทวาร ผู้ป่วยโรคหัวใจ สตรีมีครรภ์ และผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับผนังลำไส้
- ช่วยป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ช่วยเพิ่มเส้นใยอาหาร ทำให้กากอาหารเคลื่อนผ่านลำไส้ใหญ่ได้เร็วขึ้น และทำให้สารก่อมะเร็งมีโอกาสสัมผัสกับผนังลำไส้ได้น้อยลง
ไฟเบอร์ กิฟฟารีน ไฟเบอรีน ใยอาหารชนิดเม็ด
ส่วนประกอบที่สำคัญโดยประมาณใน 1 เม็ด: |
เส้นใยจากเปลือกต้นบีชและสน (เซลลูโลส) 44.1946% (278.426 มก.) อาคาเซีย กัม 22.8368% (143.872 มก.) เซลลูโลส 10.309% (64.947 มก.) เส้นใยจากข้าวโพด (พอลิเดกซ์โทรส) 3.594% (22.642 มก.) เส้นใยจากถั่วลันเตา 0.769% (4.845 มก.) |
วิธีรับประทาน: รับประทานครั้งละ 3 เม็ด พร้อมนํ้าสะอาด 1-2 แก้ว วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร |
ข้อมูลสำหรับผู้แพ้อาหาร : มีแลคโตส
คำเตือน : อ่านคำเตือนในฉลากก่อนบริโภค ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค
เลขที่ใบจดแจ้ง : 13-1-03440-1-0145